แม่งง ลูกชายจากไป 10 ปีแล้ว จู่ๆ ก็ได้หมายเรียกกลายเป็นผู้ต้องหามีคดีเฉย

คอมเมนต์:

เจอยังงี้งงเลย?

    สื่อท้องถิ่นรายงานว่า นางสหัส จันทา ชาวตำบลนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ อาชีพรับจ้างทั่วไปได้ออกมาเรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ตนได้รับเอกสารจากไปรษณีย์ ซึ่งเป็นเอกสารที่ส่งมาจากสถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์

    แต่เมื่อเปิดออกดูก็ทั้งงงและตกใจเพราะเอกสารฉบับดังกล่าว ระบุว่า "เป็นหมายเรียกผู้ต้องหาครั้งที่ 1 สถานที่ออกหมายเรียกสถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ออกหมายวันที่ 25 มิ.ย.2563 เป็นคดีความอาญาระหว่างบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เป็นผู้กล่าวหา นายธวัชชัย จันทา บุตรชายของตัวเอง ซึ่งได้จากไปตั้งแต่ปี 2556 ให้ไปพบตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา"

 

Sponsored Ad

 

    เอกสารระบุว่าลูกชายตกเป็นผู้ต้องหาคดี “ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงๆ” เกรงว่าลูกชายที่เสียชีวิตไปเกือบ 10 ปีแล้วจะตกเป็นแพะ หรืออาจส่งผลกระทบมาถึงครอบครัวทั้งที่ไม่ได้กระทำอะไรผิดหรือเกี่ยวข้องอะไรเลย

 

Sponsored Ad

 

    นางสหัส บอกว่า ลูกชายเรียนจบเพียงชั้น ป.6 จากนั้นก็ออกมาทำงานรับจ้างทั่วไป ที่ผ่านมาก็จะทำงานแค่ในพื้นที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ตลอด ยืนยันว่าลูกชายไม่เคยเดินทางไปจ.สุรินทร์ และลูกเรียนจบ ป.6 คงไม่มีความรู้ความสามารถที่จะไปดำเนินการเรื่องเช็คอะไรได้

    นางสหัส เล่าต่อว่า ที่ทำให้แปลกใจคือลูกชายเสียชีวิตไปเกือบ 10 ปีแล้วทำไมหมายเรียกเพิ่งออกเมื่อเดือนที่แล้ว จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นความผิดพลาดของทางตำรวจในการจัดทำเอกสารแต่ก็อยากให้มีการตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องด้วย เพราะที่ถูกออกหมายเรียกเป็นคดีเกี่ยวกับเช็ค ถึงแม้ว่าลูกจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ก็ไม่สบายใจกลัวว่าจะส่งผลกระทบมาถึงทางครอบครัวอยากให้ตรวจสอบและชี้แจงกรณีดังกล่าวให้ชัดเจนด้วย

 

Sponsored Ad

 

    ล่าสุด ได้มีการสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปยัง ตำรวจผู้ออกหมายจับแล้ว ซึ่งพี่ตำรวจก็ยืดอกยอมรับว่า การออกหมายเรียกในครั้งนี้ เป็นความผิดพลาดของตัวเอง
    พี่ตำรวจเล่าว่า ไปค้นชื่อในระบบทะเบียนราษฎร์ ตามชื่อที่ทางบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แจ้งมาว่ามีผู้ต้องหาชื่อนายธวัชชัย จันทา ซึ่งปรากฏเป็นชื่อเดียวกันกับผู้ที่ตายไป และมีคนชื่อเดียวกัน 2 คน คนแก่กับคนหนุ่ม โดยตอนนั้นตนไม่ทราบว่า คนหนุ่มได้เสียชีวิตไปแล้ว เลยโทรไปถามทางบริษัทอีกครั้ง ว่าค้นข้อมูลแล้วพบว่ามี 2 คน เป็นคนแก่หรือหนุ่ม บริษัทตอบว่าคนหนุ่ม ซึ่งบริษัทไม่รู้ว่าตรงกับสำเนาบัตรประชาชนที่บริษัทส่งมาหรือไม่

 

Sponsored Ad

 

    ตนยังไม่ได้ค้นดูข้อมูลสำเนาบัตรประชาชนของผู้ต้องหาตัวจริงที่ทางบริษัทส่งมาให้ ยังไม่ได้เช็กดูอะไรให้ดีก่อน เลยจัดการส่งหมายเรียกไปที่บ้านของคนที่ตนเข้าใจว่าเป็นผู้ต้องหา เลยกลายเป็นการออกหมายผิดตัว
    หลังจากนั้น ทางผู้รับหมายโทรกลับมา ก็บอกว่า ชายคนนี้ไม่เคยมีคดี และได้เสียชีวิตไปเกือบ 10 ปี แล้ว 

    พี่ตำรวจเล่าต่อ เสียงเศร้าว่า ได้มีการอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นและชี้แจงตามข้อเท็จจริงกับทางครอบครัวที่ถูกออกหมายเรียกแล้ว มันเป็นความผิดพลาดของผมเอง ที่ส่งหมายผิดไป ต้องขอประทานโทษขอประทานอภัยอย่างสูงที่ทำผิดกระบวนการ ตนทำตามหน้าที่ ไม่ได้มีเจตนาที่จะออกหมายเรียกมั่วซั่วอยู่แล้ว และไม่ได้มีเจตนาไม่ดีที่จะทำให้เขาเสื่อมเสีย ผิดก็ยอมรับผิด ก็ขอโทษกับทางญาติเขาไปแล้ว ซึ่งทางญาติก็ไม่ได้มีการพูดอะไรเพิ่มเติม ถ้าหากจะมาร้องเรียนหรือดำเนินคดีกับตน มันก็เป็นสิทธิ์ของเขา ไปห้ามเขาไม่ได้

    สรุป คือ คนที่ถูกออกหมายไป ไม่เคยมีคดี ไม่ได้มีความผิดอะไร ส่วนผู้ต้องหาตัวจริง ได้มีการออกหมายเรียบร้อยและเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว และหมายนี้ไม่ใช่คดีเก่า เป็นหมายใหม่ที่ออกตามปกติ
    แต่ไม่ปกติตรงที่ออกหมายผิดตัว ซึ่งความผิดพลาดครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่เลยทีเดียว

ที่มา : tvpoolonline,อีจัน

บทความที่คุณอาจสนใจ