แม่ค้าผู้มีแต่ให้ "ป้าตั๊ก" ข้าวแทบล้นจานในราคาแสนถูก ให้คนรายได้น้อยได้อิ่มท้อง กว่า 20 ปี

คอมเมนต์:

"...กำไรตัวเงินป้าไม่รู้ ที่เห็นๆ ก็ปริญญาตรีของลูก 2 ใบ เสื้อผ้าที่ใส่ รถใช้งาน ครอบครัวดี นี่คือกำไรที่ได้สำหรับป้า"

    ชื่อเสียงของร้าน เพราพุงกาง เป็นที่รู้จักมาตั้งแต่ 20 ปีก่อน หรือเมื่อปี พ.ศ. 2540 ที่หลายคนต่างก็พูดถึงเรื่องราวใจดีของเจ้าของร้าน จนถึงวันนี้เมื่อเจ้าของอายุกว่า 52 ปี แต่เธอก็ไม่เคยคิดหยุดหรือลดแบ่งปันความอิ่มแก่ลูกค้าเลย

    “ใครจะเอาข้าวเพิ่มมาตักได้เลยนะลูก” แม่ครัวใจดี “ป้าตั๊ก-วาสนา มาเหลน” หรือ “แม่ตั๊ก” ที่ขาประจำร้านมักเรียกเธอ ตะโกนบอกลูกค้าก่อนจะวางตะหลิวมาถ่ายทอดเรื่องราวของการให้ข้าวและกับข้าวพูนจานแบบไม่คิดเงินเพิ่มในราคาถูกจนน่าตกใจ

 

Sponsored Ad

 

    จุดเริ่มต้นของการให้อิ่มแบบจานยักษ์ทั้งกับข้าวและกับข้าวในราคาเริ่มต้นเพียง 30 บาท เกิดขึ้นมาจากการได้รับการปลูกฝังเรื่องของการให้มาจากคนที่อุปการะเด็กไร้พ่อแม่อย่างเธอให้มีบ้านและอาหารอย่างสุขสบาย

    “พ่อแม่ป้าทิ้งป้าตั้งเด็กๆ พ่อเฒ่ากับแม่เฒ่ารับมาเลี้ยงที่บ้านท่านร่วมกับพี่ๆ น้องๆ คนอื่นๆ อีก 4-5 คน ท่านเป็นคนที่ใจดีเวลาทำอะไรให้กินจะทำเยอะๆ  แล้วก็มากินด้วยกันทั้งบ้าน ทีนี้พอมาเปิดร้านก็คิดว่าปู่ย่าเราให้กินอิ่มแล้วเราก็สบายใจ ก็เลยให้ข้าวและกับข้าวลูกค้าเขาเยอะๆ”

 

Sponsored Ad

 

    แม้ว่าในเวลานั้นที่เริ่มต้นทำกิจการร้านอาหารตามสั่งตัวเองจะลำบากไม่น้อย ต้องตกงานทั้งตัวเองและสามี กระทั่งได้ความช่วยเหลือจากพี่สาวยกร้านแห่งนี้ให้ค้าขายต่อทำกินเธอก็ยังเลือกที่จะแบ่งปัน

    “อีกสิ่งหนึ่งคือคำสัญญากับเพื่อนเมื่อก่อนทำงานเวลาไปกินข้าว 10 กว่าบาท จะกิน 2 จานมันเยอะเกินไม่ไหว ขอพิเศษเพิ่มอีก 5 บาท มันก็ได้มานิดเดียวไม่อิ่ม กินสองจานเงินก็ไม่พอใช้ เราไปกันกับเพื่อนๆ ก็จะบอกว่าถ้าเป็นเจ้าของจะให้กินให้พุงแตกเลย” แม่ครัวใจดีย้อนวันวานอย่างอารมณ์ดี

 

Sponsored Ad

 

    ปู่พร่ำสอนตลอดว่า “เราไม่เคยให้ใคร ใครเขาจะคิดให้เรา ก่อนที่จะเป็นผู้รับเราต้องเป็นผู้ให้”

ป้าตั๊กหลังจากเปิดร้านได้ 1-2 ปี ก็เลยค่อยๆ เพิ่มข้าวเพิ่มกับข้าวให้แก่ลูกค้าเรื่อยมากระทั่งเวลานี้ รวมระยะเวลากว่า 20 ปีมาแล้ว

 

Sponsored Ad

 

    “ป้าก็เลยเวลาใครจะมาสั่งอาหารจะถามว่าทานข้าวเยอะไหม จะบอกไม่พอมาตักใหม่ได้นะ ถือจานมาเลยมาเติมได้ไม่คิดเงิน เพราะถ้าข้าวน้อยมันก็ไม่อร่อย ข้าวเยอะกับน้อยมันก็ไม่อร่อย" 

    นอกจากผลการกระทำดีที่สะท้อนกลับมาเป็นลูกค้าที่แน่นร้าน ซึ่งเป็นเม็ดเงินที่เข้าร้านทำให้กิจการ ‘เพราพุงกาง’ โดยการเป็นหัวเรือใหญ่ของป้าตั๊กเปิดมากว่า 20 ปี เติบโตและอยู่เรื่อยมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 นั้นคือชีวิตที่ไม่มีตกแม้วิกฤตเศรษฐกิจไม่ดีถาโถม

    “คิดว่าตอนนี้ 50 กว่าต้องการอะไร แก่แล้วที่เราอยากได้คือให้ครอบครัวมีความสุข คนอื่นได้รับสิ่งดีๆ กำไรตัวเงินป้าไม่รู้เพราะป้าไม่ได้ทำบัญชี ได้เงินมาก็เอามาใช้จ่าย ถามว่าอยู่ได้ไงก็คือเนี่ยที่เห็นๆ ปริญญาตรีของลูก2 ใบ เสื้อผ้าที่ใส่ รถใช้งาน ครอบครัวดี นี่คือกำไรที่ได้นะสำหรับป้า”

 

Sponsored Ad

 

    ส่วนกำไรอีกอั้นป้าตั๊กบอกว่าคือการที่ตนได้เห็นรอยยิ้มของทุกคน ลูกค้าทานข้าวแล้วอร่อยมากมาพูดชม ลูกค้าทำหน้าตกใจว่าราคาแค่นี้เอง 40 บาท ทั้งๆ ที่ใส่ไข่ดาวเพิ่ม ทั้งๆ ที่สั่งเมนูอาหารเกี่ยวกับทะเล ซึ่งต่างจากราคาปกติ 30 บาท เพียง 10 บาทเท่านั้น  

    “ป้าเห็นหน้าตาอลังการตื่นเต้นก็ดีใจแล้ว นั้นแหล่ะคือความสุขทางใจที่ได้ ตอนนี้ป้าก็มีความสุขมาก เราเป็นแม่ค้า แม่ค้าอยากได้ยินเสียงชมหรือเสียงอยากด่า ทุกคนต้องการฟังสิ่งดีๆ มันก็ชื่นใจเรา แต่ถ้าป้ากะเพราสุนัขไม่กินเลย จะชื่นใจไหม เปรียบก็เหมือนลูกพูดกับเราดี เราชื่นใจมากเลยคือน้ำที่ชุ่มชื่นใจหล่อเลี้ยงชีวิตเรา”

 

Sponsored Ad

 

    “ใจแลกใจ รู้สึกมีความสุขใจ การที่เราให้แล้วมันผ่านมาแล้วตั้ง 10-20 ปีที่แล้ว ถึงวันนี้ผลมันมาแตกตอนนี้มันก็อิ่มใจ อิ่มไปหลายๆ อย่าง สิ่งที่ได้ทำมามันสัมฤทธิ์ผลแล้ว ไม่ต้องรอชาติหน้า ชาตินี้ได้” แม่ครัวใจดีกล่าวทิ้งท้าย

    ใครที่อยากสัมผัสข้าวอร่อยในปริมาณคุณภาพอิ่มท้องแถมราคาย่อมเยาร้าน ‘เพราพุงกาง’ เปิดให้บริการเวลา 09.00-19.30 น. หยุดวันเสาร์และอาทิตย์ ป้าตั๊กจัดให้ ในราคาเมนูเริ่มต้นในราคา 30 บาท อย่าง หมูกับไก่ 30 บาท ใส่ไข่ 40 บาท เมนูพิเศษจำพวกทะเลใส่กุ้ง หมึก เบคอน หรือผัดสปาเก็ตตี้และมักกะโรนี ราคา 40 บาท

ที่มา : posttoday

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ