"กาบัง" สุนัขฮีโร่ผู้เสี่ยงชีวิตปกป้อง 2 ด.ญ. จากอุบัติเหตุ จนตัวเองต้องสูญเสียจมูกไปตลอดชีวิต
คอมเมนต์:
วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ "กาบัง" (Kabang) สุนัขฮีโร่ที่เอาตัวเอาไปช่วยชีวิตสองเด็กหญิงตัวน้อยจากการรถจักรยานยนต์ชนเมื่อปี พ.ศ. 2554 โดยที่เด็กน้อยทั้งคู่ปลอดภัย แต่ตัวกาบังเองเกือบเอาชีวิตไม่รอด และต้องสูญเสียจมูกไปตลอดชีวิต
ในวันเกิดเหตุ ขณะที่เด็กหญิงวัย 11 ขวบและ 3 ขวบ ซึ่งเป็นลูกและหลานสาวของ Rudy Bunggal เจ้านายของกาบัง ได้เดินจูงมือกันข้ามถนนโดยมีกาบังเดินตามอยู่ข้าง ๆ แต่จู่ ๆ ก็มีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งขี่มาด้วยความเร็วสูงพุ่งตรงมายังเด็กหญิงทั้งสอง
Sponsored Ad
กาบังที่รู้ว่ากำลังจะเกิดอันตรายกับเด็กหญิงตัวน้อยทั้งสอง จึงกระโจนเข้าขวางรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเพื่อปกป้องครอบครัวที่มันรัก ก่อนที่จักรยานยนต์จะชนกาบังเข้าเต็ม ๆ ทำให้จมูกของกาบังหักและฉีกออก แม้จะเจ็บตัวแต่ด้วยความตกใจและหวาดกลัวทำให้กาบังวิ่งหนีหายไป
ทันทีที่ทราบเรื่อง Rudy Bunggal ก็รีบวิ่งมาที่เกิดเหตุรู้สึกดีใจที่ลูกและหลานปลอดภัย แต่เมื่อรู้ว่ากาบังยอมเสี่ยงชีวิตตัวเองเข้าช่วยลูกและหลานของตนเองก็ถึงกับอึ้ง ทั้งภูมิใจและเศร้าในเวลาเดียวกัน พยายามออกตามหาเพื่อพากาบังไปรักษาตัวต่อไป
Sponsored Ad
แต่ผ่านไปหลายวันก็ยังหาตัวกาบังไม่พบ จน Rudy เองก็เริ่มถอดใจและคิดว่ามันคงไม่รอด แต่ทว่าหลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์ กาบังก็เดินแบกร่างกายที่อ่อนแรงกลับบ้าน ดูเหมือนว่ามันอยากจะใช้ลมหายใจสุดท้ายอยู่กับพวกเขา
หลังจากพาไปรักษาสัตวแพทย์ก็แนะนำให้การุณยฆาต เพื่อยุติความเจ็บปวด แต่ Rudy ปฏิเสธเพราะทำใจไม่ได้หากต้องจบชีวิตกาบังไว้เพียงเท่านี้
เรื่องราวของกาบังถูกตีแพร่ไปทั่วโลก ผู้คนมากมายต่างชื่นชมและยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ต่อมากาบังก็ถูกส่งตัวไปรับการรักษาที่คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เดวิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ในประเทศสหรัฐอเมริกานานถึง 7 เดือน
Sponsored Ad
สัตวแพทย์พยายามคิดหาวิธีผ่าตัดซ่อมแซมจมูกและฟันของกาบังที่หายไป แต่น่าเศร้าที่พวกเขาไม่สามารถทำได้ แต่อย่างไรก็ตามสัตวแพทย์ก็ได้ทำการรักษาบาดแผลและศัลยกรรมตกแต่งอวัยวะในส่วนที่เหลืออยู่ให้สามารถใช้งานได้ดี อยู่ในตำแหน่งที่สวยงามและเหมาะสมมากที่สุด จนกาบังสามารถกลับบ้านไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
Sponsored Ad
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเมื่อสัตวแพทย์ตรวจพบความผิดปกติภายในช่องคลอด และวินิจฉัยว่ากาบังป่วยเป็นโรคมะเร็ง ทำให้กาบังต้องอยู่ที่สหรัฐอเมริกานานขึ้นเพื่อรักษาโรคมะเร็ง จนหลายเดือนต่อมามะเร็งร้ายก็หายไป กาบังจะได้กลับไปหาครอบครัวแล้ว
หลังจากที่รักษาตัวจนหายดี กาบังก็ได้กลับไปอยู่กับครอบครัวที่ฟิลิปปินส์ เมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2556 กาบังได้กลับไปใช้ชีวิตมีอยู่กับครอบครัวที่รักเรื่อยมาอย่างมีความสุข จนกระทั่งปี พ.ศ. 2558 รูดี้นายรักของเธอก็จากไปตลอดกาล
Sponsored Ad
Anton Mari H. Lim สัตวแพทย์ชาวฟิลิปปินส์ผู้รับหน้าที่ดูแลกาบังขณะเดินทางไปรักษาตัวที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ทราบข่าวการจากไปของ Rudy จึงตัดสินใจขอรับเลี้ยงกาบังต่อ หลังจากนั้นกาบังก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ได้รับความรักความอบอุ่นมากมาย
วันที่สัตวแพทย์ Anton Mari H. Lim รับกาบังเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
Sponsored Ad
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา Anton Mari H. Lim ได้ประกาศผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงข่าวการจากไปของกาบัง
Sponsored Ad
โดยระบุข้อความไว้ว่า "ด้วยความโศกเศร้าอย่างสุดซึ้ง ผมขอประกาศว่าน้องหมาฮีโร่ของเราได้จากโลกนี้ไปแล้ว "กาบัง" (กุมภาพันธ์ 2551 - 17 พฤษภาคม 2564) ผมพบว่าเธอนอนนิ่งอยู่ใกล้ ๆ กับเบาะนอนของเธอ ผมเห็นเธอมีชีวิตครั้งสุดท้ายตอนเวลาประมาณ 15.00 น. ตอนที่ผมไปให้อาหารและเปลี่ยนน้ำในถ้วยให้กับเธอ ผมกลับไปดูเธออีกครั้งตอน 19.00 น. และพบว่าเธอจากไปแล้ว เธอน่าจะจากไปก่อนหน้านั้นประมาณ 1-2 ชั่วโมง ผมรู้ว่าเธอเพิ่งจะออกไปเล่นที่สวนกับน้องหมาตัวอื่น ๆ มาเหมือนอย่างที่เคยทำ เพราะผมสังเกตเห็นที่เท้าของเธอเปื้อนดิน
ขอบคุณกาบังสำหรับ 5 ปีแห่งความรัก ความซื่อสัตย์และความสุขที่ไม่มีเงื่อนไขที่เธอนำมาสู่ครอบครัวของเรา ขอบคุณสำหรับบทเรียนชีวิตและแรงบันดาลใจที่เธอให้กับโลกใบนี้ เราจะคิดถึงเธอ หวังว่าจะได้พบเธออีกครั้ง หลับให้สบายนะกาบัง"
ด้วยวีรกรรมการเสียสละและภักดีของกาบัง ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ได้ถูกกล่าวถึงและสร้างความประทับใจให้กับผู้คนเรื่อยมา ทำให้กลุ่มคนรักสัตว์ชาวฟิลิปปินส์ได้ช่วยกันระดมทุนจัดสร้างรูปปั้นของกาบังขึ้นเพื่อระลึกถึงวีรกรรมที่เธอเคยทำไว้ด้วย
"ขอบคุณสำหรับ 8 ปีที่เต็มไปด้วยบทเรียนยอดเยี่ยมในความรักชีวิตและรักโดยไม่มีเงื่อนไข ผมและครอบครัวคิดถึงแกแล้ว คาบัง แม้ว่าแกจากไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ขอให้เราพบกันอีกนะ" สัตวแพทย์ Anton Mari H. Lim โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว
ที่มา : theanimalrescuesite, vice, Anton Mari H. Lim, banpamungsook