อ.เจษฎา ตอบข้อสงสัย "ใช้ถุงคลุมรถ" กันน้ำท่วม จากประสบการณ์ปี 54 สอนให้รู้ว่าถุงคลุมรถใช้แล้วไม่เวิร์ค

คอมเมนต์:

ว่าแต่แบบไหนเสียเงินเยอะกว่ากัน

    อีกหนึ่งเรื่องราวที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ หลังเกิดสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในประเทศ จนทรัพย์สินต่าง ๆ เสียหาย ทำให้หลายคนต้องย้ายรถขึ้นไปที่สูง แต่ก็มีคนแนะนำให้ใช้ถุงคลุมแทน

    มีหลายเพจเสนอไอเดีย เอาถุงขนาดใหญ่มาคลุมรถยนต์เพื่อกันน้ำ จนถูกแชร์ออกไปอย่างมหาศาล และถุงขนาดใหญ่ก็ขายดีเป็นอย่างมากจนถึงขั้นขาดตลาด แต่ก็มีชาวเน็ตบางส่วนเข้ามาห้าม โดยบอกว่า การเอาถุงคลุมแล้วปล่อยให้รถแช่น้ำ สุดท้ายแล้วรถก็จะขึ้นรา

 

Sponsored Ad

 

    อ่านข่าวก่อนหน้านี้ : ชาวเน็ตแบ่งปันวิธีป้องกันรถจากน้ำท่วม แนะใช้ถุงคลุมรถกันน้ำแบบพิเศษช่วยได้ แต่หลายคนบอกอย่าหาทำ

 

Sponsored Ad

 

    นอกจากนี้ ถ้าน้ำท่วมสูงมาก ๆ น้ำก็จะดันรถให้ลอย แล้วถ้ารถลอยไปปะทะกับสิ่งกีดขวาง ถุงก็จะขาดและน้ำก็จะรั่วเข้ารถอยู่ดี หรือไม่เช่นนั้น รถก็อาจจะลอยไปติดหล่ม เมื่อน้ำแห้งเจ้าของรถอาจจะไม่รู้ว่ารถหายไปไหนแล้ว

    แต่ก็มีคนบอกว่า วิธีที่ดีที่สุดคือการเอารถไปจอดบนที่สูง ทั้งคอนโด ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่ที่เปิดให้จอดรถ แต่ถ้าต้องการใช้วิธีการคลุมรถด้วยถุงพลาสติก ก็ควรใช้สารกันความชื้นเข้าไปเยอะ ๆ วิธีนี้อาจจะมีเชื้อราขึ้นอยู่บ้าง แต่ก็จะไม่เสียหายหนักกว่าที่ควรจะเป็น

 

Sponsored Ad

 

    ด้าน อาจารย์เจษฎ์ หรือ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ได้ออกมาพูดถึงประเด็นนี้ด้วย โดยบอกว่า หากต้องการใช้ถุงคลุมรถ ก็ขอให้ใช้ด้วยความระมัดระวัง

 

Sponsored Ad

 

    เนื่องจากช่วงน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 และมีรถที่ห่อถุงแบบนี้ไว้ จอดจมน้ำกันไว้หลายคัน แต่เมื่อน้ำรถแล้วแกะถุงออกก็พบว่า รถทั้งคันกลับเต็มไปด้วยเชื้อรา บางคันก็ลอยตามน้ำไปไกลหรือหายไป จึงไม่อยากให้ให้ใช้ถุงห่อรถแบบนี้

    อาจารย์เจษฎ์ ยังบอกอีกว่า วิธีที่เหมาะสมมากกว่าคือ รีบหาที่สูง ไปจอดรถเก็บเอาไว้หนีน้ำท่วม แต่ถ้าจะคลุมด้วยถุงจริง ๆ ก็ควรหาทางถ่วงน้ำหนักของถุงเอาไว้ด้วย และควรหากล่องสารดูดความชื้นใส่ไว้ในรถด้วย เพราะอาจจะช่วยลดความชื้นในรถและลดการเกิดเชื้อราได้...

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<

ที่มา : อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์Ch3ThailandNews

บทความที่คุณอาจสนใจ