ฟังกี่ทีก็ไม่มีเบื่อ พระสุรเสียงที่ ในหลวง ร.๙ ตรัสกับคุณย่าทวดเล็ก อย่างไม่ถือพระองค์

คอมเมนต์:

เมื่อครั้งทรงเสด็จพระราชดำเนิน ทอดพระเนตรโบราณสถานในเมืองศรีสัชนาลัย

    เมื่อกล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เรามักจะเห็นภาพที่พระองค์ทรงไม่เคยทอดทิ้งประชาชน เห็นได้จากการที่ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในท้องถิ่นต่าง ๆ ทุกภูมิภาคของประเทศ อย่างสม่ำเสมอ 

    และทุกครั้งที่พระองค์เสด็จไปเยี่ยมราษฎร ก็จะมีเรื่องเล่าสุดแสนประทับใจมาบอกต่อให้เราๆได้ฟังกันอยู่เสมอ เหมือนอย่างเช่นครั้งที่พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินทอด พระเนตรโบราณสถานในเมืองศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย

 

Sponsored Ad

 

    วันที่ 1มีนาคม พ.ศ.2501 ขณะที่ในหลวงทรงเสด็จพระราชดำเนินทอด พระเนตรโบราณสถานในเมืองศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย อยู่นั้น คุณย่าทวด “เล็ก เปล่งเสียง” อายุวัย 90 ปี ได้นำน้ำฝนลอยดอกมะลิ มาตั้งไว้หลายถัง เผื่อหากข้าราชบริพารที่ติดตามขบวนเสด็จ กระหายนํ้าจะได้ดืมนํ้ากัน แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดว่าพระองค์ทรงตรัสกับคุณย่าทวดเล็กว่า “ย่าจ๋า ฉันขอดืมน้ำในถังสักแก้วได้ไหม” คุณย่าทวดเล็กก็ทูลตอบว่า “ฉันไม่กล้าให้ในหลวงกินหรอก เพราะมันเป็นน้ำฝนและเป็นนํ้าธรรมดาด้วย” ในหลวงก็ทรงแย้มพระสรวล (ยิ้ม) พระองค์ก็ทรงตรัสกับคุณย่าทวดเล็กว่า “ปกติฉันก็กินน้ำธรรมดาอย่างนี้นี่แหละย่า” จากนั้นพระองค์ทรงตักนํ้าฝนในถังเสวย และพระองค์ยังตรัสว่า “นํ้าฝนเย็นสดชื่นดี และยังหอมกลิ่นดอกมะลิอีกด้วย”

 

Sponsored Ad

 


    ภาพนี้ คือภาพจริงในเหตุการณ์จริง เมื่อปี ๒๕๐๑ ผู้ถ่ายภาพคือ “ดร. สุเมธ ตันติเวชกุล” เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในพระราชกรณียกิจด้านทรัพยากรวัฒนธรรมประเภทโบราณสถาน โบราณวัตถุ และพิพิธภัณฑ์ พระองค์ทรงสนพระราชหฤทัยและเห็นความสำคัญมรดกของชาติอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมืองโบราณศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย เสด็จทอดพระเนตรอยู่หลายครั้ง

 

Sponsored Ad

 

    จากข้อมูลหนังสือ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบิดาแห่งการอนุรักษ์มรดกไทย” กรมศิลปากรบันทึกไว้ พระองค์เสด็จทอดพระเนตรเมืองโบราณศรีสัชนาลัย 3 ครั้ง ด้วยทรงสนพระราชหฤทัยและห่วงใยโบราณสถานที่มีสภาพทรุดโทรมเหล่านั้น (เมืองศรีสัชนาลัย หรือชื่อเดิม เมืองเชลียง ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยมด้านทิศเหนือของกรุงสุโขทัย เป็นเมืองที่มีความสำคัญในรัชสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 หรือ พระยาลิไท 1890 – 1917) ได้พระราชทานแนวพระราชดำริแก่กรมศิลปากร ในการดูแลและอนุรักษ์โบราณสถาน โบราณวัตถุเหล่านั้นตามหลักมาตรฐานสากล สำหรับในที่นี้ขอนำเรื่องพระองค์เสด็จทอดพระเนตรโบราณสถานแห่งนี้มาเล่าสังเขป ตามลำดับพร้อมรูปภาพ

 

Sponsored Ad

 

    วันที่ 1 มีนาคม 2501 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จประพาสเมืองเหนือและทรงเยี่ยมเยียนประชาชนจังหวัดต่างๆ รวมทั้งจังหวัดสุโขทัยด้วยแล้ว ได้เสด็จไปยังเมืองศรีสัชนาลัย ชมโบราณสถานวัดช้างล้อม วัดเจดีย์เจ็ดแถว และวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ (มหาธาตุเชลียง) ด้วยความสนพระราชหฤทัยอย่างยิ่ง

    วันที่ 25 มกราคม 2509 หลังจากประกอบพระราชพิธีบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเสร็จแล้ว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังบ้านรับรองหน่วยศิลปากรที่ 3 เมืองศรีสัชนาลัย ทอดพระเนตรแบบจำลองเมืองศรีสัชนาลัย จากนั้นเสด็จชมโบราณสถาน วัดช้างล้อม วัดเจดีย์เจ็ดแถว วัดสวนแก้วอุทยานใหญ่ วัดนางพญา หลักเมือง บริเวณพระราชวังและวัดสวนแก้วอุทยานน้อย ในครั้งนี้ได้มีพระราชกระแสรับสั่งกับรองอธิบดีกรมศิลปากร (นายกฤษณ์ อินทโกศัย)

 

Sponsored Ad

 

    โบราณสถานเมืองศรีสัชนาลัยนี้ เมื่อได้บูรณะเสร็จแล้วให้จัดการดูแลรักษาไว้ให้เป็นอย่างดี อย่าให้กลับชำรุดทรุดโทรมลงอีก โดยเฉพาะบริเวณพระราชวังที่ได้ขุดพบรากฐานนั้น ควรจะได้ขุดดูให้ทั่วถึง เพราะอาจพบจารึกหรือหลักฐานอันจะเป็นประโยชน์แก่ประวัติศาสตร์

Sponsored Ad

    พระราชดำรัสนี้ แสดงให้เห็นความห่วงใยของพระองค์ที่มีต่อโบราณสถานของชาติ วันที่ 26 ธันวาคม 2515 ทั้งสองพระองค์เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ ในคราวนี้ได้ทอดพระเนตรโบราณสถานหลายแห่ง และใช้เวลาแต่ละแห่งนานมาก เสด็จไปยังเขาพนมเพลิง โดยมี หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล คณบดีคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร และคณะ ผู้ตามเสด็จโดยใกล้ชิด

ที่มา : tunkhao

บทความแนะนำ More +