เปิด 5 ของขลังคู่กาย "ขุนพันธ์" มือปราบขมังเวท ที่เหล่าตำนานโจรเกรงกลัว

คอมเมนต์:

ท่านจะสอนว่า เราเกิดเป็นมนุษย์นั้น "ให้" ดีกว่า "รับ"

        พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช (บุตร พันธรักษ์) อดีตนายตำรวจชื่อดังของวงการตำรวจไทย ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นอันมากในการปราบโจรร้ายในภูมิภาคต่าง ๆ ของไทย ในภาคกลางเช่น เสือฝ้าย เสือย่อง เสือผ่อน เสือครึ้ม เสือปลั่ง เสือใบ เสืออ้วน เสือไหว เสือมเหศวร ที่พัทลุง ปราบ เสือสังหรือเสือพุ่ม ที่นราธิวาส ปราบผู้ร้ายทางการเมือง ในปี พ.ศ. 2481 หัวหน้าโจรชื่อ "อะเวสะดอตาเละ" จนท่านได้ฉายาจากชาวไทยมุสลิมว่า "รายอกะจิ" ซึ่งแปลว่า "อัศวินพริกขี้หนู"

 

Sponsored Ad

 

 

        และยกเว้นคนเดียวที่ขุนพันธรักษ์ราชเดช ไม่ได้ทำการจับกุม แต่แลกกับอิสระภาพนั้นคือ เสือดำ โดยใช้ร่างลูกน้องของเสือดำเองเสียสละชีพว่าเสือดำถูกสังหารแล้ว

 

Sponsored Ad

 

        ภายหลังจึงทราบว่า ตัวตนเสือดำยังมีชีวิตอยู่ โดย เสือไบ เสือมเหศวร ได้พบเจอกันช่วงอายุมากแล้ว และเสือดำได้ออกรายการในที่สุด คือบุคคลเดียวที่ ขุนพันธรักษ์ราชเดช ยอมเสี่ยงทำผิดกฏหมาย แต่คดีไม่มีใครทราบความจริงสุดท้ายจึงหมดอายุความลง

        อย่างไรก็ตาม ขุนพันธรักษ์ราชเดช เคยเปิดเผยเรื่องราวของเครื่องรางของขลังที่ใส่ติดตัวยามออกปราบโจรจนทำให้แคล้วคลาดภัยอันตรายต่าง ๆ ได้แก่..

1. พระปรุหนังอยุธยา

         พระปรุหนังในคอขุนพันธ์ ท่านแขวนเป็นพระองค์ประธาน ของพระเครื่องอีกหลายองค์ในสร้อยคอเส้นเดียวกัน ถึงแม้ว่าท่านจะเกษียณแล้ว ก็ยังใส่ติดตัวเสมอมา

 

Sponsored Ad

 

2. หลวงปู่ทวด วัดช้างให้

3. พระปิดตาหลวงพ่อทับ วัดทอง

4. พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า

 

Sponsored Ad

 


5. ตะกรุดของพระคูกาชาด ย่อง วัดวังตะวันตก

        ชีวิตของ พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นชีวิตที่มีค่าของแผ่นดินเมืองใต้และเมืองไทย ลมหายใจของท่านเคยโลดแล่นอยู่ท่ามกลางหมู่โจรผู้ร้าย ไม่เฉพาะแต่ผู้ร้ายในภาคใต้เท่านั้น แต่ที่ไหนประชาชนเดือดร้อนจากโจรผู้ร้ายชุกชุม ตำรวจคนอื่นปราบปรามไม่สำเร็จ กรมตำรวจจะต้องส่งตัวขุนพันธ์ฯ ไปปราบปรามทุกถิ่นที่มีครั้งหนึ่งท่านเป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรเขต 8 ท่านเคยเดินทางมาตรวจสืบราชการลับที่เกาะสมุย 

 

Sponsored Ad

 

        ขุนพันธ์ฯ ท่านชอบดูมวย วันนั้นท่านไปยืนดูมวยอยู่ข้างเวที บังเอิญถอยหลังไปเหยียบเท้านางพล้อยเข้าโดยไม่ตั้งใจ ป้าพล้อยแกเป็นคนปากจัด ใครแตะเป็นด่าไม่ไว้หน้า แกก็ด่าขุนพันธ์ฯ ขุนพันธ์ฯ ก็วางเฉยไม่โต้ตอบอะไร มีคนรู้จักกันเข้าไปเตือนสติป้าพล้อยว่า "คนที่ป้าด่าอยู่นั้นรู้มั๊ยว่าเป็นใคร...นั่นแหละขุนพันธ์ฯ" พอได้ยินชื่อขุนพันธ์ฯเท่านั้น ป้าพล้อยแกเงียบเป็นเป่าสาก รีบก้มหน้างุด ๆ เดินมุดผู้คนหนีไปโดยไม่เหลียวหลังมาอีกเลย คำบอกเล่าสั้น ๆ นี้ทำให้เห็นว่า ขุนพันธ์ฯ ท่านมีตบะสูง เพียงได้ยินว่าเป็นขุนพันธ์เท่านั้น ใคร ๆ ก็ขยาดทั้งนั้น เพราะรู้กิตติศัพท์ของท่านมาก่อน

ที่มา : เทพจุติ, ให้ความรู้