ไม่ต้องเสียเงินแพงๆ "เห็ดเผาะ" เพาะเองได้แล้ว สุดยอดอาหารพื้นบ้าน อุดมคุณค่าโภชนาการ

คอมเมนต์:

ของโปรดแอดเลย ใครเคยกินบ้างคะ

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

    สุดยอดอาหารพื้นบ้านเมืองไทย เลิศรส แถมมากด้วยคุณค่าทางอาหาร “เห็ดเผาะ” นับว่าเป็นที่นิยทอย่างมาก เพราะมีน้ำ โปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรตอย่างครบถ้วน นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก ไนอะซิน และวิตามินซี อีกด้วย

    มีอยู่ช่วงหนึ่งหากใครจำได้ “เห็ดเผาะ” กิโลกรัมละเกือบพันบาท แต่ก็ไม่ได้ลดความยากของคนที่ชอบกินแม้แต่น้อย ทำเอาหลายคนที่เก็บได้ขายได้กำไรเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว

 

Sponsored Ad

 

    แต่ตอนนี้ไม่ต้องไปหาซื้อกิโลกรัมละแพงๆ อีกต่อไป เพราะว่า “เห็ดเผาะ” สามารถปลูกเองได้ตามธรรมชาติ ไม่ทำร้ายป่า

 

Sponsored Ad

 

    ดร.อานนท์ เอื้อตระกลู ผู้เชี่ยวชาญอาวุโส ด้านการเพาะเห็ด องค์การสหประชาชาติ ประจำปี พ.ศ.2524-2548 เล่าให้ฟังว่า “เห็ดเผาะ” หรือ “เห็ดถอบ” มี 2 สายพันธุ์ ได้แก่ “เห็ดเผาะหนัง” สีดำเนื้อกรอบๆ และ “เห็ดเผาะฝ้าย” เนื้ออ่อนนิ่ม เกิดในต้นฤดูฝนไม่มีราก เป็นก้อนกลมๆ มีเปลือกแข็งสปอร์อยู่ข้างใน ซึ่งจะนิยมนำมาทำอาหารในช่วงที่อ่อนๆ

    แน่นอนว่าเห็ดนอกจากจะรสชาติดี และมีคุณค่าทางโภชนาสูงแล้ว ยังมีคุณสมบัติทางยาอีกด้วย ทำให้ทั้งความสนใจและความต้องการของเห็ดเพิ่มขึ้น ขณะนี้คนไทยกินเห็ดเกิน 10,000 กรัม/คน/ปี

 

Sponsored Ad

 

    “ผมว่าตอนนี้เรื่องเห็ดคนสนใจกันมาก ตอนที่ผมสอนใหม่ๆ เมื่อปี 2516 ไทยยังสั่งเห็ดนำเข้า ยังไม่มีการเพาะเห็ดมาก คนไทยสมัยนั้นกินเห็ดแค่ 235 กรัม/คน/ปี แต่หลังจากที่รณรงค์และเผยแพร่เรื่องเห็ด จากนั้นมาเพียงแค่ 5 ปีให้หลัง ไทยสามารถเพาะเห็ดฟางได้มากถึง 60,000 ตันมากที่สุด”

 

Sponsored Ad

 

    ปัจจุบัน ประเทศไทย สามารถเพาะ “เห็ดเผาะ” แบบยั่งยืนได้แล้ว โดยนำ “เชื้อเห็ดเผาะ” ใส่เข้าไปในรากของต้นตระกูล ต้นยางนา เช่น ต้นเหียง ต้นพลวง มะค่า เต็งรัง ต้นไม้พวกนี้หากมีเชื้อเห็ดเผาะเข้าไปอาศัยจะโตไวมาก เพราะเส้นใย “เห็ดเผาะ” จะเกาะอยู่ที่ปลายราก ย่อยอาหารจำพวกฟอสฟอรัสให้รากพืชแข็งแรง และป้องกันไม่ให้อย่างอื่นมาทำร้ายรากของต้นไม้นั้น

    ต้นไม้ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ นอกเหนือจากจะเจริญเติบโตด้วยการสังเคราะห์แสงแล้ว มีมากถึง 95% ที่ไม่สามารถย่อยสารอาหารที่อยู่ปลายรากได้เอง จำต้องพึ่งเชื้อราหนึ่งชนิดที่กำลังจะพูดถึง คือ “ไมคอร์ไรซา” เป็นรากลุ่มหนึ่งซึ่งอยู่ใต้ดินอาศัยอยู่ตามรากพืชของต้นไม้ ซึ่งเป็นเชื้อของเห็ดเผาะ เห็ดตับเต่า เห็ดระโงก เป็นต้น

 

Sponsored Ad

 

    ขณะเดียวกันเห็ดก็อาศัยพลังงานและเอ็นไซม์ที่มีประโยชน์จากพืช ซึ่งจะอยู่ร่วมอาศัยซึ่งกันและกันเช่นนี้ ไปจนหมดอายุขัยของต้นไม้ เช่น ไม้ยางนาที่เป็นไม้เนื้อหอม สามารถมีอายุได้นานกว่า 700 ปี

        เรามาดู “วิธีการปลูกเห็ดเผาะ” กันดีกว่า…ขั้นตอนแรกนำ “เห็ดเผาะ” ที่แก่จัดมาแกะเอาสปอร์ข้างใน แล้วนำไปผสมน้ำให้เข้ากัน จากนั้นนำน้ำดำๆ ที่ได้ราดไปที่โคลนต้นไม้ ในปีถัดไปก็จะมีเห็ดเผาะเกิดตามรากไม้ต้น เมื่อต้นไม้โตพอประมาณสัก 2 ปี ให้เริ่มเก็บได้ และจะเกิดที่ต้นไม้ต้นนี้ทุกๆ ปี

 

Sponsored Ad

 

        ส่วนอีกวิธีที่ดีที่สุดให้นำน้ำดำๆ ไปรดกล้าต้นไม้ทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละครั้ง สังเกตุดูต้นกล้าถ้าเริ่มมีเนื้อเยื่อ “เห็ดเผาะ” เจริญเติบโตแล้ว ให้นำไปปลูกได้ หรืออีกวิธีที่ง่ายกว่านั้น นำต้นกล้าไปปลูกทิ้งไว้ใต้ต้นไม้ยางนาสักระยะ ก็จะได้ต้นกล้าที่ติดเชื้อ “เห็ดเผาะ” ไปด้วย แต่เมื่อในปีถัดไปมี “เห็ดเผาะ” เกิดขึ้น อย่าพึ่งเก็บเพราะต้นไม้ยังไม่แข็งแรงพอ

Sponsored Ad

        ก็แสดงว่า หากเรานำ “เห็ดเพาะ” เข้าไปในรากยางนา เพียง 2-3 ปี ก็จะมี “เห็ดเผาะ” เกิดขึ้น และเก็บต่อไปได้อีกกว่า 700 ปี โดยไม่ต้องใส่เชื้อเห็ดใหม่อีกเลย และผลิตจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี ตามภาพที่เห็น คือ “ต้นยางนาง” อายุประมาณ 10 ปี ที่ใส่ “เชื้อเห็ดเผาะ” เข้าไป

        นี่คือ “การเพาะเห็ดเผาะ” กลางคันนา กลางทุ่ง ข้างถนนใน จ.เชียงใหม่ จึงไม่เป็นไปตามที่เข้าใจกันว่า ต้องปลูกอยู่ในป่าเท่านั้น น่าตื่นเต้น และน่าจะเป็นข่าวดีที่สุดของคนไทยที่ชอบกิน “เห็ดเผาะ”

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก <<<

ที่มา : taibann