รู้จัก "ป้าเจี๊ยบ" ผู้เอาชนะมะเร็งได้ เพราะเล่นสเก็ตบอร์ด สู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยในวัย 63 ปี

คอมเมนต์:

ชอบความคิดของป้าเจี๊ยบมาก ๆ

    คงไม่มีใครคิดว่า ผู้หญิงวัย 63 ปี จะดูเฟี้ยวฟ้าว ดูเท่ได้มากขนาดนี้ สำหรับวันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ "ป้าเจี๊ยบ-นงลักษณ์ ชัยฤทธิไชย" ที่กลายมาเป็นต้นแบบในการใช้ชีวิตของใครหลาย ๆ คนไม่ว่าจะเป็นหนุ่มสาว หรือผู้สูงอายุ 

    หากพูดถึงนักกีฬาเอ็กซ์ตรีมทีมชาติไทย หลายคนต้องคิดถุงเด็กวัยรุ่นผู้ชาย คงไม่มีใครคิดว่าจะมีผู้ใหญ่อย่าง "ป้าเจี๊ยบ" รวมอยู่ในนั้นด้วย โดยจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอเริ่มหัดเล่นลองบอร์ด ก็คือหลังจากวันที่รู้ว่าตัวเองป่วยเป็น "โรคมะเร็งเต้านม" แต่กว่าเธอจะมาถึงวันนี้ได้ นั้น เธอต้องต่อสู้กับโรคร้ายและคำสบประมาทมากมายทั้งเรื่องอายุ ที่หลายคนมองว่าไม่เหมาะกับกีฬาประเภทนี้

 

Sponsored Ad

 

    ป้าเจี๊ยบ เผยว่า ก่อนหน้านี้ทำมาหลายงานแล้ว ทั้งงานโรงแรม ท่องเที่ยว แต่พอมีลูกเปลี่ยนมาทำกิจการของตัวเอง เปิดโรงงานซักผ้า รับซักผ้าโรงแรม ก่อนจะย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพก็กลับมาเป็นพนักงานบริษัท 

 

Sponsored Ad

 

    จุดเปลี่ยนของชีวิตคือวันที่รู้ว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งเต้านม หลังจากเพิ่งตกงานมาไม่นาน โลกทั้งใบที่เคยกว้างแคบลงเหลือเพียงรั้วบ้าน จากคนสนุกสนานชอบท่องเที่ยว ต้องอยู่แต่ในบ้านเพราะโรคมะเร็งทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ อีกทั้งการออกไปสถานที่นอกบ้านพัก จะทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคโดยง่าย จึงต้องยุติกิจกรรมทั้งหมดถึง 2 ปี 

    ช่วงเวลา 2 ปีนั้นก็เข้าสู่กระบวนการรักษาคีโม ฉายแสง หลังจากนั้นหมอก็ให้กลับมาฟื้นฟูร่างกายที่บ้าน จนวันที่ได้ออกไปเดินสวนสาธารณะ ลูกพาไปเดิน "แต่ในขณะที่เราเดินเขาเล่นสเก็ตไง" จึงหยิบมาลอง พอเริ่มขึ้นปุ๊บก็ไถได้เลย ก็เลยรู้สึกชอบ หลังจากนั้นก็ก็ให้ลูกพาไปเล่นทุกวัน 

 

Sponsored Ad

 

    นอกจากสนุกแล้ว สุขภาพก็ดีด้วย อีกทั้งการเล่นลองบอร์ดร่างกายมันได้ขยับในทุกส่วน ไม่ใช่แค่ใช้เท้าหนึ่งขึ้นไปยืนแล้วเอาเท้าหนึ่งไถ แต่เราต้องทั้งทรงตัวบนกระดาน เจอโค้งก็ต้องเอี้ยวตัวเลี้ยว ต้องย่อตัวและเกร็งกล้ามเนื้อ หัวใจมันทำงานทุกอย่างมันก็ดี

    แรก ๆ ก็มีอาการเคล็ดขัดยอก แต่หลังจากนั้น 6-7 ปี ไม่มีอาการป่วยโรคอะไรอีกเลย มะเร็งหาย เบาหวาน ความดัน โรคคนแก่ไม่มี

 

Sponsored Ad

 

    ย้อนกลับไปตอนหัดเล่นแรก ๆ มีหลานชายวัย 10 ขวบ หัดเล่นพร้อมกันเลย เล่นเป็นพร้อมกัน จึงเป็นจุดเปลี่ยนความคิดว่า "อายุเท่าไหร่ก็ได้ถ้าอยากเล่น" แต่หลายคนก็มักจะบอกว่าเปลี่ยนไหม ห้ามปรามด้วยความหวังดีในเรื่องสุขภาพ "บอกว่ารุ่นนี้อะไหล่ไม่มีเปลี่ยนแล้วนะ" 

 

Sponsored Ad

 

    แต่ป้ากลับคิดว่า ชีวิตคนเราต่างก็อยู่ในอันตราย บางคนเดินอยู่บ้านตกบันได อยู่ที่ความระมัดระวัง อยู่ที่สติของเรา เราควรจะรู้ขีดความสามารถของเราแค่ไหน ทุกครั้งที่เล่นก็ควรมีสติให้มาก "ทำอะไรก็ได้ที่เรามีความสุข ดีที่สุด"

    นอกจากนี้การเล่นสเก็ตบอร์ด ทำให้ได้เจอเพื่อนต่างวัย ได้เปลี่ยนมุมมองความคิดที่ว่า คนละวัยคนละรุ่นจะเป็นเพื่อนกันยาก แต่พอได้รู้จักได้มีเพื่อนที่เป็นเด็ก ๆ พวกเราต่างได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน เราเรียนรู้เขา เขาเรียนรู้เรา มันเข้าใจกันได้มากขึ้น 

 

Sponsored Ad

 

.

    ป้าเจี๊ยบ ยังบอกอีกว่า เราอยากให้ทุกคนแก่มาแบบนี้นะ อยากให้ทุกคนให้โอกาสตัวเอง การที่เราให้โอกาสตัวเองไม่ได้รบกวนคนอื่นไม่ได้เป็นภาระคนอื่น เรารู้ว่าทุกคนจะมีความกลัว แล้วการกลัวก็เป็นเรื่องดีตรงที่ว่าพอเรากลัวเราก็มีความระมัดระวัง แต่บางครั้งการที่เรากลัวมาเกินไปก็เป็นการปิดโอกาสตัวเอง

Sponsored Ad

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

    ในตอนที่เรายังเราหายใจอยู่ เราควรได้ทำในสิ่งที่เรารักและมีความสุขให้ได้มากที่สุด ถ้าเรามีความสุข คนรอบข้างของเราก็จะมีความสุข "ชีวิตเราไม่รู้วันพรุ่งนี้จะเป็นยังไง ก็ทำวันนี้ให้ดีที่สุดให้เรามีความสุขมากที่สุด"

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ที่มา : workpointtoday, posttoday

บทความที่คุณอาจสนใจ