จากลูกโชห่วย นักข่าวปลายแถว ครบรอบ 32 ปี อาชีพที่รักของ "สรยุทธ" ได้จัดรายการอีกครั้ง

คอมเมนต์:

วันนี้อย่างน้อยผู้ชายคนนี้ก็ยังได้ทำงานที่ตัวเองรัก

        หลังจากที่ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ต้องพบเจอกับมรสุมของชีวิตมากมากมาย จากชีวิตที่ดูรุ่งโรจน์ จนกระทั่งวันที่ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ทำเอาแฟนคลับถึงกับเศร้าไม่น้อยเมื่อทราบเรื่อง แต่ในอินสตาแกรมของ สรยุทธ ก็มีการอัปเดตเรื่องราวของนักเล่าข่าวคนนี้อยู่เป็นระยะให้ได้ติดตามกันอยู่เสมอ 

        และล่าสุด เมื่อไม่นานมานี้ แอดมินของสรยุทธก็ได้โพสต์เรื่องราวการประกอบวิชาชีพที่สรยุทธรักว่า "วันนี้เมื่อ 32 ปีก่อน 5 พ.ค.2531 พี่ยุทธเริ่มงานวันแรก วันนี้อย่างน้อยพี่ยุทธก็ยังได้ทำงานที่ตัวเองรัก...ส่วนหนึ่งจากรายการ “เรื่องเล่าชาวเรือนจำ” EP.7" (อ่านเพิ่มเติม : ราชทัณฑ์เผยคลิป "สรยุทธ" จัดรายการเล่าข่าวในเรือนจำ คนดูบอก "คิดถึงลีลาการอ่านข่าว-น้ำเสียงที่คุ้นเคย")

 

Sponsored Ad

 

        พร้อมกับเปิดเผยบรรยากาศการจัดรายการในเรือนจำของสรยุทธที่มีชื่อรายการว่า เรื่องเล่าชาวเรือนจำ หลังจากที่แอดมินของสรยุทธได้โพสต์เรื่องราวการทำงานในอาชีพนี้มา 32 ปีแล้วของสรยุทธไป ก็มีคนในวงการบันเทิงที่รักและคิดถึง รวมไปถึงแฟนๆ ที่ยังรักและคิดถึง เข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจและฝากความคิดถึงไปให้สรยุทธเป็นจำนวนมาก 

 

Sponsored Ad

 

        แม้กระทั่ง ไบรท์ พิชญทัฬห์  หรือ น้องไบรท์ ผู้ประกาศข่าวสาวที่เคยทำรายการร่วมกับ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ก็ได้ออกฝากความคิดถึงให้กับ "พี่ยุทธ" พร้อมชวนให้แฟนข่าวได้ไปติดตามชมรายการดังกล่าว ดังนี้

        "คิดถึงเสมอนะคะ sorrayuth9111 ตอนนี้กรมราชทัณฑ์นำรายการ "เรื่องเล่าชาวเรือนจำ" ออกเผยแพร่ผ่านทาง FB ประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์ แล้วนะคะ เผื่อแฟนข่าวอยากดูให้หายคิดถึงค่ะ"

ภาพจาก Instagram sorrayuth9111

 

Sponsored Ad

 

.

        กว่าจะมาเป็น “สรยุทธ” กรรมกรข่าว ผู้โกยเรตติ้งกระฉูด

        “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” เกิด 11 พฤษภาคม 2509 (ปัจจุบันอายุ 53 ปี) เป็นคนกรุงเทพฯ ครอบครัวทำธุรกิจร้านโชห่วย ย่านบางกะปิ ในปี 2530 จบคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เกรดเฉลี่ย 3.8 ในปี 2531 เริ่มอาชีพแรก โดยการเป็นนักข่าวที่เดอะเนชั่น ประจำรัฐสภา ทำอยู่นานประมาณ 2 ปี จึงย้ายไปประจำทำเนียบรัฐบาลอีก 2 ปี แต่ชีวิตนักข่าวในขณะนั้น ไม่ค่อยโลดโผนหรือโดดเด่นเท่าที่ควร

        ปี 2535 สรยุทธ เข้ามาประจำกองบรรณาธิการ (กอง บ.ก.) ในตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าข่าวการเมือง, ปี 2537 เป็นหัวหน้าข่าวการเมือง, ต่อมาเข้าปี 2540 สรยุทธเขยิบมาเป็นบรรณาธิการข่าว และแบ่งเวลามาร่วมกับ “สุทธิชัย หยุ่น” บิ๊กบอสและทีมงาน จัดรายการวิเคราะห์ข่าวให้สถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ กระทั่งทีมเนชั่นได้ แยกตัวออกมา และเริ่มต้นใหม่ที่ยูบีซี 8 โดยมีรายการ “เก็บตกจากเนชั่น” และ “คมชัดลึก” เป็นตัวชูรสให้ชื่อเสียงของสรยุทธเป็นที่ยอมรับในวงการมากขึ้น ด้วยคำถามที่คม ถึงลูกถึงคน มีลูกล่อลูกชนแพรวพราว

 

Sponsored Ad

 

        โดยสื่อในยุคนั้น รายงานว่า ภายหลังจากที่ สรยุทธ บอกลาจากเครือเนชั่น สรยุทธ มีรายการโทรทัศน์อยู่อย่างน้อย 3 รายการ หนึ่งคือ รายการกล่องวิเศษ จัดสัปดาห์ละ 4 ครั้ง เดือนละ 16 ครั้ง ค่าตัวเบ็ดเสร็จ 100,000 บาทต่อเดือน และรายการถึงลูกถึงคน ทางช่อง 9 ภาคกลางคืนทุกคืน ค่าตัวว่ากันเป็นรายวัน วันละ 5,000 บาท รวม 22 วัน ในเดือนหนึ่ง ตกประมาณ 110,000 บาท และสามคือ รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายได้ไม่ยืนยันแน่นอน แต่สูงลิบแน่นอน

 

Sponsored Ad

 

        ทั้งนี้ ไม่นับรวมรายได้ประจำที่รับต่างหากจากตำแหน่งโปรดิวเซอร์ ฝ่ายรายการของบีอีซีอีก 200,000 บาทต่อเดือน ซึ่งสื่อในยุคนั้นยังระบุเน้นย้ำในรายงานไว้อีกว่า สรยุทธ ได้จ่ายภาษีถูกต้องตามกฎหมายอย่างเรียบร้อยทุกบาททุกสตางค์

        ขณะที่ ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า ธุรกิจของสรยุทธมีอยู่ 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด และบริษัท ไร่ส้ม จำกัด โดยในปี 2558 ถือว่าเป็นปีที่ สรยุทธ ทำรายได้ได้มากโข เพราะข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด มีกำไรสุทธิ 66 ล้านบาท ส่วนบริษัท ไร่ส้ม จำกัด มีกำไรสุทธิ 320.3 ล้านบาท รวมสองบริษัทกำไรปาเข้าไปเกือบ 390 ล้านบาท

 

Sponsored Ad

 

        ขณะที่ อีกบทบาทหนึ่งที่คนไทยยอมรับในความทุ่มเทของเขาก็คือ การรับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน และลงพื้นที่ไปช่วยเหลือชาวบ้าน อย่างเมื่อครั้งน้ำท่วมหนักช่วงปี 2554 คนไทยเห็นหน้าสรยุทธบุกลุยไปเกือบทุกที่ อีกทั้งยังสามารถระดมเงินทุน และเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยเวลาอันรวดเร็ว แม้จะถูกวิจารณ์ว่า ทำเกินหน้าที่สื่อมวลชนก็ตาม

        แต่กระนั้น สรยุทธ ถือเป็นสื่อมวลชนที่เรียกตัวเองว่า “กรรมกรข่าว” ร่ำรวยจากการทำรายการข่าว โดยจัดตั้ง บริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด และบริษัท ไร่ส้ม จำกัด รับดำเนินการจัดรายการข่าวให้สถานีโทรทัศน์ สร้างเรตติ้งกระฉูด กระทั่งถูกร้องเรียน จนปิดฉาก “นักเล่าข่าว” ชื่อดังในที่สุด

ที่มา : kapook, thairath

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ